วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

Check Engine : ทำสายเช็คโค๊ด สำหรับรุ่นก่อน ODB

วิธีทำอุปกรณ์อ่านค่า Error Code เมื่อไฟ Check Engine ขึ้น ลงทุนเพียงไม่กี่บาท

เมื่อมีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นกับส่วนประกอบเครื่องยนต์ เช่นแอร์โฟล์เซนเซอร์ ไฟ Check Engine
ก็จะโชว์ขึ้นมา ซึ่งอาจจะติดตลอดหรือติดๆดับๆก็ได้ เมื่อเกิดเหต์การณ์เช่นนี้ขึ้นเราสามารถหาสาเหตุของ
Error นั้นได้โดยใช้อุปกรณ์ที่ทำได้ไม่ยาก อุปกรณ์ที่ใช้ก็มี


1. หลอดไฟ LED สีแดงหรือสีขาวธรรมดาที่หาได้ทั่วไป (หลอดละ2-3 บาท)
2. ตัวต้านทานประมาณ 330 โอหม์
3. สายไฟเส้นเล็กๆสองเส้น ถ้าหาสีแดงดำได้ก็ดี

วิธีทำก็ให้เชื่อมตัวต้านทานเข้ากับขาบวก(ด้านยาว)ของ LED
แล้วต่อเชื่อมสายไฟสีแดงต่อจากตัวต้านทานอีกทีหนึ่ง ส่วนสายไฟสีดำก็ต่อเชื่อมเข้ากับอีกขาหนึ่งของ LED
(ขาสั้น) ส่วนปลายของสายไฟทั้งสองเส้นก็ต่อเข้ากับปากคีบเส้นละตัว แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย
(ถ้าใครชอบเดินบ้านหม้ออาจจะหาหลอดLEDสำเร็จรูปใช้กับไฟ 5
โวลท์ที่มีตัวต้านทานในตัวก็จะได้ไม่ต้องบัดกรี)


วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ABS: Check CODE ABS TOYOTA Corolla 4A-FE ไฟเตือน ABS โตโยต้า

การเช็ค Check Code ABS
ระบบเบรก ABS เป็นการผสมผสานระหว่างระบบกลไก และระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่คือ ป้องกันล้อล็อกเมื่อต้องเบรกกะทันหัน ควบคุมพวงมาลัยให้ไปตามทิศทางที่ต้องการได้ง่าย

เมื่อไฟเตือน ABS ขึ้นโชว์ แสดงให้เห็นว่าเกิดมีปัญหาในระบบเบรก ให้รีบทำการแก้ไข โดยระบบจะสามารถบอกเราได้ว่าเป็นอะไร โดยการ Check Code ABS ทำให้แก้ไขปัญหาได้ถูกจุดที่เสีย โดยมีส่วนประกอบของดังนี้
ABS Warning Light (ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์)
ABS Actuator (ชุดปั๊ม, โซลีนอย์ควบคุมแรงดันเบรกซึ่งมีวาวล์ 2 ส่วนต่อล้อ คือ Holding แรงดันหลัก และ Reduction แรงดันที่ปรับลดลง)
ABS Relay (รีเลย์ ABS ภายในกล่องฟิวล์ และบางครั้งพบฟิวล์ ABS อยู่ด้านข้าง)
ABS ECU (เป็นกล่องควบคุมการทำงานทั้งหมดของ ABS ส่วนใหญ่ติดอยู่กับ ABS Actuator)
Front Speed Sensors (เซ็นเซอร์วัดความเร็วล้อหน้า มีอยู่ที่ล้อ ซ้ายและขวา)
Rear Speed Sensors (เซ็นเซอร์วัดความเร็วล้อหลัง มีอยู่ที่ล้อ ซ้ายและขวา)

การทำสายจั๊ม SST
1. หลอดไฟ LED สีแดงธรรมดาที่หาได้ทั่วไป (หลอดละ2-3 บาท)
2. ตัวต้านทานประมาณ 660 โอห์ม
3. สายไฟเส้นเล็กๆสองเส้น ถ้าหาสีแดงดำได้ก็ดี

I. การตรวจสอบอาการ ABS
                1. ทำการเปิดฝากระโปรงรถ หากล่องเล็ก ๆ ที่เขียนว่า DIAGNOSIS โดยกล่องจะอยู่ใกล้ ๆ กับกรองอากาศ
2. เปิดฝากล่อง DIAGNOSIS เสียบปลายสายไฟลงที่ขั้ว Tc กับ E1 และดึงแผ่นเหล็กเล็ก ๆ ที่เสียบที่ขั้ว Wa กับ Wb ออก
3. ทำการบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON ***ไม่ต้อง สตาร์ทเครื่อง ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ต้องกด Overdrive เป็น On (ไฟดับ) ***
4. สังเกตการกระพริบของไฟ ABS ในรถยนต์จะกระพริบเป็นแบบจังหวะ จดบันทึกรหัสอาการเสียไว้ เพื่อแก้ไขปัญหา
                                - กรณีมีอาการเดียว เช่น รหัส 12 คือ ไฟกระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1.5 วิ กระพริบ 2 ครั้ง เว้น 2.5 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1.5 วิ กระพริบ 2 ครั้ง เว้น 2.5 วิ จะเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ (1-11---1-11---1-11---...)
                                - กรณีมีหลายอาการ 2 code ขึ้นไป เช่น 14, 16 หมายถึง กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1.5 วิ กระพริบ 4 ครั้ง เว้น 2.5 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1.5 วิ กระพริบ 6 ครั้ง เว้น 4 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1.5 วิ กระพริบ 4 ครั้ง จะเป็นอย่างนี้วนไปเรื่อยๆ (1-1111--1-111111---1-1111--1-111111---...)
5. ทำการบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง OFF แล้วดึงสายเสียบจั๊มพ์ขั้วออก และเอาแผ่นเหล็กเล็ก ๆ ที่เสียบคืนที่ขั้ว Wa กับ Wb เหมือนเดิม

II. การอ่านโค๊ดอาการ TOYOTA ABS CODES
CODE 11: Open circuit in ABS control (Solenoid) relay circuit.
วงจรควบคุม ABS โซลีนอย เกิดการขาดของวงจร
CODE 12: Short circuit in ABS control (Solenoid) relay circuit.
วงจรควบคุม ABS โซลีนอย เกิดการช๊อต
CODE 13: Open circuit in ABS control (Pump motor) relay circuit.
วงจรควบคุมมอเตอร์ปั๊ม ABS เกิดการขาดวงจร
CODE 14: Short circuit in ABS control (Pump motor) relay circuit.
วงจรควบคุมมอเตอร์ปั๊ม ABS เกิดการช๊อต
                CODE 21: Open or short in ABS solenoid for right front wheel.
โชลีนอย ABS ที่ควบคุมล้อหน้าด้านขวา เกิดการช๊อตหรือวงจรเกิดขาด
CODE 22: Open or short in ABS solenoid for left front wheel.
โชลีนอย ABS ที่ควบคุมล้อหน้าด้านซ้าย เกิดการช๊อตหรือวงจรเกิดขาด
CODE 23: Open or short in ABS solenoid for right rear wheel.
โชลีนอย ABS ที่ควบคุมล้อหลังด้านขวา เกิดการช๊อตหรือวงจรเกิดขาด
CODE 24: Open or short in ABS solenoid for left rear wheel.
โชลีนอย ABS ที่ควบคุมล้อหลังด้านซ้าย เกิดการช๊อตหรือวงจรเกิดขาด
CODE 31: Signal right front wheel speed sensor circuit.
สัญญาณจาก ล้อหน้าด้านขวา ไม่ครบวงจร อาจเกิดจากสายไฟขาด หรือ เซ็นเซอร์สกปรก หรือเสีย
CODE 32: Signal left front wheel speed sensor circuit.
สัญญาณจาก ล้อหน้าด้านซ้าย ไม่ครบวงจร อาจเกิดจากสายไฟขาด หรือ เซ็นเซอร์สกปรก หรือเสีย
CODE 33: Signal right rear wheel speed sensor circuit.
สัญญาณจาก ล้อหลังด้านขวา ไม่ครบวงจร อาจเกิดจากสายไฟขาด หรือ เซ็นเซอร์สกปรก หรือเสีย
CODE 34: Signal left rear wheel speed sensor circuit.
สัญญาณจาก ล้อหลังด้านซ้าย ไม่ครบวงจร อาจเกิดจากสายไฟขาด หรือ เซ็นเซอร์สกปรก หรือเสีย
*** ปกติจะสามารถวัดค่าจากสายสัญญาณก่อนถึงล้อ ได้ที่ 0.5 ถึง 2.5 โวลต์ ***
CODE 35: Open in left front or right rear wheel speed sensor (WSS) circuit.
Speed sensor ที่ล้อหน้าซ้ายหรือหลังขวา เกิดอาการขาด

36 — Open in right front or left rear WSS circuit.
Speed sensor ที่ล้อหน้าซ้ายหรือหลังขวา เกิดอาการขาด

*** ปกติจะสามารถวัดค่าจากสายสัญญาณก่อนถึงล้อ ได้ที่ 1000 ถึง 1800 โอห์ม ***
CODE 37: Faulty rear speed sensor rotor.
เฟืองหมุน ล้อหลัง เสียหายจากการหัก หรืองอ

CODE 41: Battery voltage too low or high (under 9.5 volts or over 16.2 volts).
แบตเตอร์รี่มี ค่าโวลต์ ต่ำหรือสูงกว่าปกติ คือต่ำกว่า 9.5 โวลต์ หรือสูงกว่า 16.2 โวลต์ ควรแก้ไขแบตเตอร์รี่หรือไดชาร์จที่มีปัญหา
CODE 51: Pump motor is locked or pump motor circuit is open.
มอเตอร์ปั๊มค้าง หรือ วงจรมอเตอร์ปั๊มขาด
CODE 71: Low output voltage of right front speed sensor
ค่าโวลต์ที่ออกมาจาก เซ็นเซอร์ล้อหน้าด้านขวา น้อยกว่าปกติ น่าจะเกิดจากเซ็นเซอร์เสื่อมสภาพ
CODE 72: Low output voltage of left front speed sensor
ค่าโวลต์ที่ออกมาจาก เซ็นเซอร์ล้อหน้าด้านซ้าย น้อยกว่าปกติ น่าจะเกิดจากเซ็นเซอร์เสื่อมสภาพ
CODE 73: Low output voltage of right rear speed sensor
ค่าโวลต์ที่ออกมาจาก เซ็นเซอร์ล้อหลังด้านขวา น้อยกว่าปกติ น่าจะเกิดจากเซ็นเซอร์เสื่อมสภาพ
CODE 74: Low output voltage of left rear speed sensor
ค่าโวลต์ที่ออกมาจาก เซ็นเซอร์ล้อหลังด้านซ้าย น้อยกว่าปกติ น่าจะเกิดจากเซ็นเซอร์เสื่อมสภาพ
CODE 75: Rotor right front speed sensor
เฟืองล้อหน้าด้านขวา ผิดปกติ
CODE 76: Rotor left front speed sensor
เฟืองล้อหน้าด้านซ้าย ผิดปกติ
CODE 77: Rotor right rear speed sensor
เฟืองล้อหลังด้านขวา ผิดปกติ
CODE 78: Rotor left rear speed sensor
เฟืองล้อหลังด้านซ้าย ผิดปกติ
                CODE Always on: ไฟเตือนออกตลอด ECU ABS มีปัญหา

III. การลบโค๊ด TOYOTA ABS CODES
                1. ทำการเปิดฝากระโปรงรถ หากล่องเล็ก ๆ ที่เขียนว่า DIAGNOSIS โดยกล่องจะอยู่ใกล้ ๆ กับกรองอากาศ
2. เปิดฝากล่อง DIAGNOSIS เสียบปลายสายไฟลงที่ขั้ว Tc กับ E1 และดึงแผ่นเหล็กเล็ก ๆ ที่เสียบที่ขั้ว Wa กับ Wb ออก

3. ทำการบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON ***ไม่ต้อง สตาร์ทเครื่อง ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ต้องกด Overdrive เป็น On (ไฟดับ) ***
4. เหยียบเบรก 8 ครั้งหรือมากกว่า ภายใน 3 วินาที
5. ดูสัญญาณไฟเตือน ABS เป็นปกติคือกระพริบต่อเนื่อง (- - - - - - - - - - - - )
6. ทำการบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง OFF แล้วดึงสายเสียบจั๊มพ์ขั้วออก และเอาแผ่นเหล็กเล็ก ๆ ที่เสียบคืนที่ขั้ว Wa กับ Wb เหมือนเดิม



*** พยายามหาข้อมูล แล้วแปล จากผิดบ้างถูกบ้าง อย่างไรขอคำแนะนำให้ด้วยนะครับ ***


วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559

Check Engine : การแก้ปัญหาเครื่อง และเกียร์ CVT ของ HONDA รุ่นใหม่ๆ

HONDA ถ้าพบปัญหา รถฮอนด้า เกียร์ CVT
ต้องเว็ปนี้เลยครับ
http://www.hondafitjazz.com/manual.html
มีทุกอย่างทั้งวิธีไล่ระบบไฟ เช็คจุดเสีย

Check Engine : การตรวจโค๊ต ฮอนด้า ซีวิค เพิ่มเติมเมื่อ ไฟเอ็นจิ้นโชว์

จากเว็ป http://www.civicesgroup.com/forum/topic20898
โดย  alit 
วิธีเช็ค code สำหรับ HONDA

สำหรับิธีเช็ค Code ของ Honda ค่อนข้างยุ่งยากหน่อยนะครับสำหรับรถที่วางเครื่องมาใหม่ ปลั๊กที่ใช้เช็ค Code ไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิมแน่นอน

แต่ถ้าเป็นเครื่องที่ติดมากับรถเลย หรือเราว่าเครื่องใน Body นั้น ๆ จะมีสายเช็ค Code ให้อยู่บริเวณใกล้คอนโซลกลางครับ

วิธีการนับ code ก็เหมือน ๆ กับ Nissan ครับ คือนับว่ากระพริบช้ากี่ครั้ง และกระพริบเร็วกี่ครั้งครับ

วิธีอ่านโค๊ต

เวลาไฟCheck Engine ที่หน้าปัทม์โฃว์ เราก้อหาสายไฟเส้นสั้นๆ มาเสียบที่ปลั๊ก เพื่อช็อตกล่อง แล้วนับไฟกระพริบเอา ไม่ยาก ทำเองได้ครับ บางโค๊ต รถเราๆก้อไม่มีนะครับ ไม่ต้องไปใส่ใจ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เจออยู่ประจำจะฟ้องอยูไม่กี่โค๊ต

เช่น ช้า-ช้า-ดับ=20 คือเซนเซอร์ตัวที่20
เช่น เร็ว-เร็ว=2 คือเชนเซอร์ตัวที่ 2
เช่น ช้า-ช้า-ช้า-เร็ว-เร็ว-เร็ว-เร็ว-ดับ = 34 เชนเซอร์ตัวที่ 34

และกรณีเดียวกันนี้สามารถฟ้องได้มากกว่า2ตัวก็ได้ครั บ
เช่น ช้า-ช้า-เร็ว-ดับ-ช้า-ช้า-ช้า-ช้า-เร็ว-เร็ว-เร็ว-ดับ = 21 และ 43 คับ

ความหมายของ code ครับ

1 O2A - Oxygen sensor #1
2 O2B - Oxygen sensor #2
3 MAP - manifold absolute pressure sensor
4 CKP - crank position sensor
5 MAP - manifold absolute pressure sensor
6 ECT - water temperature sensor
7 TPS - throttle position sensor
8 TDC - top dead centre sensor
9 CYP - cylinder sensor
10 IAT - intake air temperature sensor
12 EGR - exhaust gas recirculation lift valve
13 BARO - atmospheric pressure sensor
14 IAC (EACV) - idle air control valve
15 Ignition output signal
16 Fuel injectors
17 VSS - speed sensor
19 Automatic transmission lockup control valve
20 Electrical load detector
21 VTEC spool solenoid valve
22 VTEC pressure valve
23 Knock sensor
30 Automatic transmission A signal
31 Automatic transmission B signal
36 traction control found on JDM ecu's
41 Primary oxygen sensor heater
43 Fuel supply system
45 Fuel system too rich or lean
48 LAF - lean air fuel sensor
54 CKF - crank fluctuation sensor
58 TDC sensor #2
61 Primary oxygen sensor
63 Secondary oxygen sensor
65 Secondary oxygen sensor heater
71 random misfire cylinder 1
72 random misfire cylinder 2
73 random misfire cylinder 3
74 random misfire cylinder 4
80 Exhaust Gas Recirculation insufficient flow detected
86 ECT Sensor (Engine Coolant Temperature) circuit range / performance problem
90 Evaporative Emission Control System leak detected in the fuel tank area
91 Fuel Tank Pressure Sensor low input
92 Evaporative Emission Control System insufficient purge flow

เมื่อเรารู้ Code แล้วเราก็สามารถเช็คจุดที่เสียได้อย่างง่าย ๆ ครับ แค่นี้เอง D.I.Y. ครับ
 


Check Engine : การตรวจโค๊ต มิซูบิชิ อีคาร์ เครื่อง 4G15 เมื่อ ไฟเอ็นจิ้นโชว์



จากเว็ป https://www.cm-club.com/forum/threads/
โดย Chakrit_op, 31 มกราคม 2008

วิธีทำอุปกรณ์อ่านค่า Error Code เมื่อไฟ Check Engine ขึ้น ลงทุนเพียงไม่กี่บาท

เมื่อมีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นกับส่วนประกอบเครื่องยนต์ เช่นแอร์โฟล์เซนเซอร์ ไฟ Check Engine
ก็จะโชว์ขึ้นมา ซึ่งอาจจะติดตลอดหรือติดๆดับๆก็ได้ เมื่อเกิดเหต์การณ์เช่นนี้ขึ้นเราสามารถหาสาเหตุของ
Error นั้นได้โดยใช้อุปกรณ์ที่ทำได้ไม่ยาก อุปกรณ์ที่ใช้ก็มี
1. หลอดไฟ LED สีแดงธรรมดาที่หาได้ทั่วไป (หลอดละ2-3 บาท)
2. ตัวต้านทานประมาณ 330 โอหม์
3. ปากคีบขนาดเล็กสองตัว (ลักษณะเหมือนปากคีบของสายต่อพ่วงแบตเตอรี่
4. สายไฟเส้นเล็กๆสองเส้น ถ้าหาสีแดงดำได้ก็ดี

วิธีทำก็ให้เชื่อมตัวต้านทานเข้ากับขาบวก(ด้านยาว)ของ LED
แล้วต่อเชื่อมสายไฟสีแดงต่อจากตัวต้านทานอีกทีหนึ่ง ส่วนสายไฟสีดำก็ต่อเชื่อมเข้ากับอีกขาหนึ่งของ LED
(ขาสั้น) ส่วนปลายของสายไฟทั้งสองเส้นก็ต่อเข้ากับปากคีบเส้นละตัว แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย
(ถ้าใครชอบเดินบ้านหม้ออาจจะหาหลอดLEDสำเร็จรูปใช้กับไฟ 5
โวลท์ที่มีตัวต้านทานในตัวก็จะได้ไม่ต้องบัดกรี)
วิธีการอ่านรหัสจากกล่องECUก็เพียงแต่ต่ออุปกรณ์นี้เข้ากับขั้วต่อที่ใช้ต่อกับเครื่องสแกน
ขั้วนี้จะอยู่ใต้คอนโซลฝั่งคนขับอยู่ข้างๆกล่องฟิวส์ ให้ต่อสายแดงเข้าที่ขั้ว 1และสายดำเข้าที่ขั้ว 12


12 11 |
10 09 | กล่อง
08 00 | ฟิวส์
07 00 |
06 05 | FUSE
04 03 | BOX
02 01 |

เมื่อต่อสายแล้วให้บิดกุญแจไปที่ ON ถ้าต่อสายถูกต้องหลอดLEDจะกระพริบเป็นจังหวะ
การกระพริบจะมีสองลักษณะคือกระพริบยาวกับกระพริบสั้น
กระพริบยาวจะแทนหลักสิบ กระพริบสั้นจะแทนหลักหน่วย เช่น
ยาว สั้น สั้น คือ 12 หมายถึงแอร์โฟล์เซนเซอร์

ต่อไปนี้เป็นรายการรหัสของ Error ต่างๆ
ย = ยาว
ส = สั้น
รหัส
11 ย ส Heated Oxygen Sensor
12 ย ส ส Volume Air Flow Sensor
13 ย ส ส ส Intake Air temperature Sensor
14 ย ส ส ส ส Throttle Position Sensor
15 ย ส ส ส ส ส Idle Speed Control Motor Position Sensor (1.8L)
21 ย ย ส Engine Coolant Temperature Sensor
22 ย ย ส ส Crankshaft Position Sensor
23 ย ย ส ส ส Camshaft Position Sensor
24 ย ย ส ส ส ส Vehicle Speed Sensor (reed switch)
25 ย ย ส ส ส ส ส Barometric pressure Sensor
31 ย ย ย ส ส Knock Sensor (only on 2.0L turbo)
36 ย ย ย ส ส ส ส ส ส Ignition Timing adjustment signal (1.8L)
41 ย ย ย ย ส Injector
42 ย ย ย ย ส ส Fuel Pump
43 ย ย ย ย ส ส ส EGR (California Models only)
44 ย ย ย ย ส ส ส ส Ignition Coil, Ignition Power Transistor (2.0L)
ถ้าติดยาวตลอดแสดงว่ากล่องECUเสีย :33:
ถ้ากระพริบสั้นตลอดแสดงว่าปรกติ :clap:

อ้อ! ขอให้เครดิตหน่อย ทั้งหมดนี้ผมไปเจอมาใน www.dsm.org ครับ ได้ลองทำแล้ว เวิร์คดีไม่มีปัญหา

ECU : การตรวจโค๊ต TOYOTA COLLOLA เครื่อง 4A-FE เพิ่มเติมเมื่อ ไฟเอ็นจิ้นโชว์

จากเว็ป http://www.aethailand.com/forum/index.php?topic=6354.0
โดยคุณ โดย RKH06 »
เพิ่มเติมจากเดิมนะครับ
Toyota Check Engine ขึ้นบอกถึงอะไร

 ตำแหน่งขั้วตรวจสอบ


  ขั้วตรวจสอบ(ใช้สายไฟต่อTE1+E1 ขั้วตามรูป



  เปิด   

  ตรวจสอบ  ไฟกระพริบ

 สังเกตุการกระพริบ  ตัวอย่าง  12  31

ระหัสตามนี้เลยครับ 
 12 สัญญาณความเร็วรอบ
13 สัญญาณความเร็วรอบ
14 สัญญาณการจุดระเบิด
16 สัญญาณควมคุม ECT
21 สัญญาณตรวจจับปริมาณออกซิเจน
22 สัญญาณการตรวจจับอุณหภูมิน้ำ
24 สัญญาณการตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
25 สัญญาณส่วนผสมบาง
31 สัญญาณตัวตรวจจับสูญญากาศ
41 สัญญาณการตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
42 สัญญาณการตรวจจับความเร็วรถยนต์
43 สัญญาณการสตาร์ด
52 สัญญาณการตรวจจับการน็อก
51 สัญญาณสวิตช์

เพิ่มเติมครับ
Diagnostic Trouble Codes
12� �Engine RPM Signal.�
13� �Engine RPM Signal.�
14� �Ignition Signal.�
16� �ECT Control Signal.�
21� �Oxygen Sensor (OS) Signal.�
22� �Water Temperature Sensor (THW) Signal.�
24� �Intake Air Temperature Sensor (THA) Signal.�
25� �Air/Fuel ratio lean.�
26� �Air/Fuel ratio rich.�
27� �Sub-oxygen sensor signal.�
31� �Air Flow Meter Signal.�
32� �Air Flow Meter Signal.�
41� �Throttle Position Sensor (TPS).�
42� �Vehicle Speed Sensor (VSS) Signal.�
43� �Starter Circuit Signal.�
51� �Switch Condition Signal.�
52� �Knock Control Signal.�
71� �EGR system malfunction
Extracting Trouble Codes:
1. Turn the ignition switch to ON. Do not start the engine.
2. Using a jumprt wire, short terminals Te1 and E1 of the check connector.
3. Read the diagnostic code as indicated by the number of flashes of the "CHECK" engine warning light.
4A FE 4A GE 4E FE 7A FE
แบบ 2 ตัวเลข เช่น 12 หมายถึง กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 2 ครั้ง เว้น 3 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 2 ครั้ง เว้น 3 วิ จะเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
ถ้ามีปัญหา 2 code ขึ้นไป เช่น 14, 16 หมายถึง กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 4 ครั้ง เว้น 2 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 6 ครั้ง เว้น 3 วิ กระพริบ 1 ครั้ง เว้น 1 วิ กระพริบ 4 ครั้ง จะเป็นอย่างนี้วนไปเรื่อยๆ 
12 สัญญาณความเร็วรอบ
13 สัญญาณความเร็วรอบ
14 สัญญาณการจุดระเบิด
16 สัญญาณควมคุม ECT
21 สัญญาณตรวจจับปริมาณออกซิเจน
22 สัญญาณการตรวจจับอุณหภูมิน้ำ
24 สัญญาณการตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
25 สัญญาณส่วนผสมบาง
31 สัญญาณตัวตรวจจับสูญญากาศ
41 สัญญาณการตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
42 สัญญาณการตรวจจับความเร็วรถยนต์
43 สัญญาณการสตาร์ด
52 สัญญาณการตรวจจับการน็อก
51 สัญญาณสวิตช์
4A GE มีสองอันน่ะครับ อันนี้เป็นแบบ 1 ตัวเลข
2 สัญญาณแรงดันอากาศ
3 สัญญาณการจุดระเบิด
4 สัญญาณตัวตรวจอุณหภูมิน้ำ
6 สัญญาณความเร็วรอบเครื่องยนต์
7 สัญญาณตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
8 สัญญาณตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
9 สัญญาณตัวตรวจจับความเร๋วรถยนต์
10 สัญญาณการสตาร์ต
11 สัญญาณสวิตช์
โค้ดดังกล่าวจะกระพริบเป็นจังหวะๆ ครับผม ลองเช็ครถตัวเองด้วยแล้วกันครับ
ถ้าปรกติจะกระพริบ ติดต่อกันไม่มีเว้นช่วงครับ
การเช็คโค้ด ก็คือ ให้นำสายไฟ ปอกปลายสองด้าน จิ้มบริเวณปลั๊ก ช่องที่ใช้จิ้ม(Te1 กับ E1) จั้มเพื่อให้มันช๊อตกันคับ แล้วมาบิดกุญแจ on ไว้ ไฟรูปเครื่องยนต์ก็จะกระพริบครับผม